วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อวยพรปีใหม่

กลอนอวยพรปีใหม่
ขออาราธนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นิมิตผล
บันดาลดล ให้พ้นทุกข์ สุขสดใส
การคิดไว้ ให้สมหวัง ดั่งตั้งใจ
อุปสรรค โพยภัย ไม่แผ้วพาน

ให้ทรัพย์สิน เงินทอง มากองเถิด
ลาภยศเกิด สมดังจิต อธิษฐาน
ทำสิ่งใด ให้สมหวัง ดั่งปณิธาน
ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว ลงตัวเทอญ




แล้วตะวันดวงเดิมก็เริ่มวัน
ส่องประกายเฉิดฉันดั่งโคมฉาย
ส่งของขวัญความสุขกระจายพราย
เหมือนจะบอกความหมายปีใหม่แล้ว

ขอให้โชคดีในชีวิต                       ขอให้ความคิดสำเร็จสม
ขอให้ความรักรื่นรมณ์                   ขอให้ชื่นชมความดีงาม
ขอให้อยู่กันอย่างสันติสุข                อย่ารานรุกรังเกียจเหยียดหยาม
มีความฝันความหวังที่พร่างพราย     ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงสุขนิรันด์


ใบไม้ร่วงร่อนไหวเป็นวง
คว้างคว้างลิ่วลงแหล่งหล้า
กำหนดกฎกาลเวลา
เก่าไปใหม่มา เป็นอาจิณ

ดวงตะวันดวงเดิมเริ่มปีใหม่
วันเวลาผ่านไปเหมือนไม่ผ่าน
ความแปรเปลี่ยนต่อเนื่องมาเนิ่นนาน
แต่จิตใจจะเบิกบานวันนี้เอย




ดวงจันทราลาลับกับปีเก่า
วันเคยเศร้า เคยทุกข์ เคยสุขสันต์
สิ่งเหล่านี้จะหมุนเวียนเปลี่ยนทุกวัน
แม้จะขึ้น...วันปีใหม่ ก็ใช่จาง

หากปีหน้าพร้อมถ้าปีต่อไป...
ก็ขอให้ทุกข์ดับ กลับแต่สุข
สิ่งใดเศร้าขอให้น้อย..และ
อย่าคอยนั่งอมทุกข์
จงยืนลุกสู้ต่อไป ไม่หวั่นเกรง

ขอให้มีสิ่งดีๆ ในชีวิต
ขอให้จิตเบิกบานปานฟ้าใส
ขอให้มีความรัก ประจักษ์ใจ
ขอให้ได้สิ่งที่หวัง อย่างใจปอง




ขอชีวิตคุณจงประสบความสวัสดี
สวัสดีให้กับความแตกดับ
เพื่อที่คุณจะได้เกิดใหม่อีกครั้ง
พร้อมกับปีใหม่นี้
เผื่อว่า ความสวัสดีแห่งชีวิตนั้น
มันจะไม่หนีคุณไปไหนอีก





ไม่นานก็คงจะ...สิ้นปี
สิ่งใดใดไม่ดีให้จางหาย
ก้าวเข้าสู่ปีหน้าเมื่อคราใด
สิ่งดีดีเข้ามาใกล้...ให้สมพร

ปีนี้อาจไม่ดีอย่างที่หวัง
ถูกใจเธอหรือยัง...อย่าไปสน
ปีหน้าฟ้าใหม่ไม่อับจน
ขอทุกอย่างสัมฤทธิ์ผลสมดั่งใจ

หวังอะไรให้ได้ดั่งใจหวัง
ขอพลังจงอยู่คู่เสมอ
ให้ก้าวมั่นสิ่งใดสมใจเธอ
มีความสุขอยู่เสมอ..ทุกคืนวัน...




ขออำนาจ...สิ่งศักดิ์สิทธ์...ในหล้าโลก
อำนวยโชค...ให้ทุกท่าน...นั้นสุขขี
ปีใหม่นี้...ให้พานพบ...แต่สิ่งดี
ขอให้มี...ความสุขล้น...กันทุกคน
ในวาระ...ดิถี..ขึ้นปีใหม่
ขออวยชัย...ให้ทุกท่าน...นั้นสุขสม
จงประสบ...พบแต่สิ่ง...มิ่งมงคล
ให้ทุกคน...จงสุขขี...และมีชัย....ไร้โรคภัย เทอญ 




สวัสดีปีใหม่ใจผ่องแผ้ว
จะเลือกตั้งอีกแล้ว เลือกแนวไหน?
ยังหาเสียงเลี่ยงกฏเกณฑ์เบี่ยงเบนไป
ประหนึ่งไฟสงครามจะลามเมือง

แล้วจะเลือกคนดีจากทีไหน
คนดี คืออย่างไรในสยาม
คนพรั่งพร้อมเกียรติยศปรากฏนาม
ฤาคนพล่ามพรั่งพรูเหมือนดูดี?

บ้านเมืองอาจย่อยยับอับจน
หากการเมืองขุ่นข้นจนเหลือที่
ต่อสู้ฟันฟาดขาดไมตรี
ขาดความปราณีให้แก่กัน

ปีใหม่วันใหม่ใกล้มาถึง
ชาวไทยจะคำนึงกันบ้างไหม?
จะเห็นแก่ประโยชน์ตนเวียนวนไป
ฤาจะมาร่วมใจแก้ไขกัน?

ให้ทุกฝ่ายร่วมมืออย่าถือเขา
ร่วมบรรเทาปัญหาอย่าขัดเขิน
เมื่อชาติมีปัญหาอย่ามัวเมิน
ยามเจริญสิ้นเคราะห์ค่อยทะเลาะกัน

ปวงประชาหันหน้ามาร่วมรัฐ
รู้ประหยัดรู้อดออมถนอมขวัญ
ให้รับรู้ปัญหาต้องฝ่าฟัน
สิ่งสำคัญรู้รักษ์และสามัคคี

ขอปวงเทพเทวาที่อารักษ์
พระบารมีที่พิทักษ์อยู่คงที่
ช่วยคุ้มครอป้องปัดสวัสดี
ให้โชคดีมีชัยทุกคนเทอญ....



ย่างปีใหม่เริ่มเข้า ปีเก่าผ่าน
เรือนโรงร้านยังเงียบเหงาซึมเศร้าอยู่
เศรฐกิจที่ คิดใหม่ ให้ฟื้นฟู
ยังไม้รู้จะไปได้ถึงไหนกัน

การเมืองเรื่องยุ่งมุ่งพิฆาต
ยังฟันฟาดกันเองบรรเลงต่อ
ความสำนึกในหน้าที่ ที่มีรอ
มีแววส่อว่าต้องรอไปอีกนาน

ขอปีใหม่ฟ้าใหม่ใสกระจ่าง
แสงทองพร่างสว่างไกลไปทุกถิ่น
ความสุขคืนมาแทนทั้งแผ่นดิน
ให้เคราะห์สิ้นโชคดี ปีใหม่กัน

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่
ขอตั้งจิตอวยชัยให้สุขสม
ขอเดชะพระบารมีที่พร่างพรม
คุ้มชาวไทยให้อุดมสมบูรณ์...เทอญ

my idol

เรน (นักร้อง)




ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อจริง    จองจีฮุน
(정지훈, Jeong Ji-Hun)
วันเกิด    25 มิถุนายน ค.ศ. 1982 (อายุ 28 ปี)
แหล่งกำเนิด    ประเทศเกาหลีใต้
แนวเพลง    K-Pop, ป็อป, อาร์แอนด์บี
อาชีพ    นักร้อง ,นักแสดง
ปี    ค.ศ. 2002 - ปัจจุบัน
ค่าย    JYP Entertainment, King Records
ส่วนเกี่ยวข้อง    เอ็มแบล็ค
เว็บไซต์    Rain.Jype.com
เรน หรือ บี (เกาหลี: 비, MC: Bi, MR: Pi) (เกิด : 25 มิถุนายน พ.ศ. 2525) นักร้องชาวเกาหลี แนว อาร์แอนด์บี และป็อป และนักแสดงชาวเกาหลี จากละครเรื่อง ฟูลเฮาส์ หรือ สะดุดรัก...ที่พักใจ บีมีชื่อแต่เกิดว่า จอง จีฮุน เกาหลี: 정지훈, ฮันจา: 鄭智薰, MC: Jeong Ji-hun, MR: Chŏng Chi-hun และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า เรน (Rain) โดยนำความหมายของชื่อ บี ในภาษาเกาหลี ซึ่งหมายถึง "ฝน" มาตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ
เรน ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 ของผู้ทรงอิทธิพลโดยนิตยสารไทม์ เป็นเวลาถึง 2 ปีซ้อน รวมถึงยังถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 50 คนที่หน้าตาดีที่สุดในโลกโดยนิตยสารฉบับเดียวกัน[1]
เนื้อหา [ซ่อน]
1 ประวัติ
2 อัลบั้ม
3 ละครซีรีส์
4 ภาพยนตร์
5 คอนเสิร์ต
6 รางวัลที่ได้รับ
7 อ้างอิง
8 แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ประวัติ

เรนเริ่มสนใจในเพลงแนวอาร์แอนด์บี และฮิปฮอปตั้งแต่ตอนเกรด 6 (ป.6) เขาเป็นสมาชิกวงบอยแบนด์ที่ชื่อว่า แฟนคลับ เรนได้เข้าไปออดิชันกับ JYP เอนเตอร์เทนเมนต์ ซีอีโอ บริษัท JYP ปาร์ค จิน ยอง เริ่มสนใจในตัวเขา เรนได้ฝึกการเต้นและได้เป็นแบ็คอัพให้ศิลปินอย่างปาร์ค จิ ยูน และ ปาร์ค จิน ยอง
ในที่สุดปี 2545 เขาได้ออกอัลบั้มแรก "Rain" ซิงเกิ้ลแรก "Bad Guy" ก็กลายเป็นเพลงฮิต และเขาได้มีโอกาสเล่นหนังซีรียส์เรื่อง "Sang Doo! Let's Go To School" ทำให้เขาได้รับรางวัลในฐานะนักแสดง หน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากสถานีโทรทัศน์ KBS ของเกาหลี หลังจากนั้นไม่นานเรนก็ออกอัลบั้มที่ 2 "Ways To Avoid The Sun" ซึ่งมีเพลงฮิตชื่อเดียวกับอัลบั้มคือ "Ways To Avoid The Sun"
ในปี พ.ศ. 2547 เขาได้แสดงซีรีส์เรื่องฟูลเฮาส์ ของ “ ลียองเจ” ที่เป็นละครที่มีเรทติ้งสูงที่สุดในเกาหลี และดังทั่วในทวีปเอเชีย ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงดีเด่นจาก KBS Acting Awardsไปครองถึง 3 รางวัล คือ Popularity Award, Excellence Award และ Best Couple Award (กับซอง เฮ เคียว)[2]
อัลบั้มที่ 3 "It's Raining" ขายได้มากกว่า 1 ล้านทั่วทั้งเอเชีย ในปี 2005 เรนได้รับรางวัลจากเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส สาขา ศิลปินยอดนิยมเกาหลี นอกจากนั้นยังได้รับรางวัล MTV Video Music Awards Japan, MTV China Awards และ Channel[V] Thailand Music Video Awards อีกด้วย


เรน ในงานเอ็มทีวี เอเชีย เอด กรุงเทพ
หลังจากนั้นเรนก็ได้ทัวร์โดยใช้ชื่อทัวร์ว่า RAINY DAY 2005 Tour โดยเริ่มต้นที่กรุงโซล บัตรขายหมดทุกรอบ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2006 เรนได้เปิดคอนเสิร์ตที่เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น ที่นิวยอร์ก บัตรขายหมดตั้งแต่วันแรก โดยตัวโชว์มีการแสดงเปิดโดย Lim Jeong Hee และมีศิลปินรับเชิญอย่างโจโจ้ , โอมาเรียน และ พี ดิดดี้
เรนกลับมากับอัลบั้มที่ 4 "Rain's World" โดยมีซิงเกิ้ลแรกคือ "I'm Coming" ตามด้วยซิงเกิ้ลที่ 2 "In My Bed"
เรนกลับพร้อมอัลบัมที่ 5 "Rainism" โดยมีซิงเกิ้ลเปิดตัวคือ " Rainism "
และในปี 2009 เขาก็ได้เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวงบอยแบนด์ เอ็มแบล็ค ภายใต้สังกัด J. Tune Entertainment

ชอบเพราะเต้นเก่ง เท่ห์

วันรัฐธรรมนูญ

10 ธันวาคม วันรัฐธรรมนูญ


  




          วันรัฐธรรมนูญ เป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่ง ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี
ความหมายของรัฐธรรมนูญ

          รัฐธรรมนูญ หมายถึง กฎหมายว่าด้วยระเบียบการปกครองประเทศ
          วันรัฐธรรมนูญ ตรงกับ วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรสยาม ฉบับถาวร เพื่อเป็นหลักในการปกครองของประเทศให้แก่ประชาชนชาวไทย
ประวัติความเป็นมา

          การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์การปกครองของชาติไทย เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของ ประเทศ

สาเหตุที่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง  
           พระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรีทรงมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นหลักในการปกครองของประเทศให้แก่ประชาชนชาวไทย 

           หลัง สงครามโลกครั้งที่ 1 เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ผลอันนี้ได้กระทบมาถึงไทยด้วย พระองค์ได้แก้ไขเศรษฐกิจโดยปลดข้าราชการออก ยังความไม่พอใจในหมู่ข้าราชการ 

           อิทธิพลจากตะวันตกเกี่ยวกับอุดมการทางการเมือง ทำให้กลุ่มคนหนุ่มต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน 

           รัฐบาลได้ออกกฏหมายเก็บภาษี อาทิ ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน จากราษฎร
 

          จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ข้าราชการทหาร และราษฎรทั่วไปจึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยการปฏิวัติ มีคณะผู้รักษาการพระนครฝ่ายทหาร ซึ่งประกอบด้วยพันเอก พระยาพหลพยุหเสนา พันเอกพระยาทรงสุรเด และพันเอกพระฤทธิอาคเนย์ เป็นผู้บริหารประเทศ
          วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวเรียกว่า "พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว" สาระ สำคัญของธรรมนูญการปกครองฉบับนี้ได้แก่ การที่กำหนดว่าอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศหรืออำนาจอธิปไตยเป็นของราษฎร ทั้งหลาย การใช้อำนาจสูงสุดก็ให้มีบุคคลคณะบุคคลเป็นผู้ใช้อำนาจแทนราษฎรดังนี้ คือ

           พระมหากษัตริย์
           สภาผู้แทนราษฎร
           คณะกรรมการราษฎร
           ศาล

          ลักษณะ การปกครองแม้จะเปลี่ยนระบอบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตยแต่ก็ถือว่าพระมหา กษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ เป็นสถาบันที่ถาวรและมีการสืบราชสมบัติต่อไปในพระราชวงศ์ การปฏิบัติราชการต่างๆ จะต้องมีกรรมการราษฎรผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ โดยได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการราษฎรจึงจะใช้ได้
วันรัฐธรรมนูญ

          สถาบันที่เกิดใหม่คือ สภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีอำนาจทางนิติบัญญัติออกกฎหมายต่างๆ ซึ่งเมื่อพระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้แล้วจึงมีผลบังคับได้ เหตุนี้ในระยะแรกของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สภาผู้แทนจึงเป็นสถาบันที่มีอำนาจสูงสุดในทางการเมือง ส่วนการใช้อำนาจตุลาการยังคงให้ศาลยุติธรรมที่มีอยู่แล้วพิจารณาพิพากษาคดี ให้เป็นไปตามกฎหมายได้ตามเดิม

          กระทั่งถึง วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรสยาม ฉบับถาวร ซึ่งมีหลักการต่างกับฉบับแรกในวาระสำคัญหลายประการ อาทิได้เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นการปกครองแบบรัฐสภา ทั้งนี้เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2475 ได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุขไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมืองเป็นผู้ใช้อำนาจทางคณะรัฐมนตรี
          ซึ่งพระมหากษัตริย์ ทรงแต่งตั้งให้บริหารราชการแผ่นดิน แต่คณะรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบในการบริหารราชการแผ่นดินต่อสภาผู้แทน รัฐสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติมิได้ใช้แต่เพียงอำนาจนิติบัญญัติเท่านั้น แต่มีอำนาจที่จะควบคุมคณะรัฐมนตรีในการบริหารแผ่นดินด้วย แต่อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีรวมทั้งพระมหากษัตริย์ซึ่งประกอบกันเป็นรัฐบาลก็มีอำนาจที่จะยุบ สภาผู้แทนได้

          หากเห็นว่าได้ดำเนินการไปในทางที่จะเป็นภัยหรือเสื่อมเสียผลประโยชน์สำคัญ ของรัฐที่มีผลเท่ากับถอดถอนสมาชิกสภาที่ได้รับเลือกตั้งมาเพื่อให้ราษฎร เลือกตั้งใหม่ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์นั้นได้บัญญัติว่าพระมหากษัตริย์ดำรง อยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้้ 

          รัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นเครื่องกำหนดระเบียบแบบแผนของสังคม เพื่อเป็นการระลึกถึงรัฐธรรมนูญฉบับแรก อันเป็นฉบับถาวร และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย ทางราชการจึงกำหนด วันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันรัฐธรรมนูญ

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กลอนวันพ่อ

 " พ่อของแผ่นดิน "

  

*** 5 ธันวา วันพ่อ ก่อเกิดสุข
ปราศจากทุกข์ สุขสดใส ใจกุศล
ลูกขอกราบ แทบเท้า เอามงคล
ลูกทุกคน รักพ่อ ขอแทนคุณ
งานพ่อหนัก ลูกประจักษ์ ในดวงจิต
ขออุทิศ กายใจ สนับสนุน
ไทยทุกคน เคารพพ่อ ผู้การุณย์
ขอเนื้อบุญ จงบันดาล ผสานใจ
ทั่วแผ่นดิน ถิ่นแคว้น แดนเหนือใต้
ทรงห่วงใย เสริมสร้าง ทางสดใส
ให้รักษ์น้ำ รักษ์ดิน สินทรัพย์ไทย
ขาดสิ่งใด ก็ไร้ค่า พาเศร้าตรม
เมื่อดินดำ น้ำชุ่ม ภาคภูมิจิต
สร้างชีวิต เสริมชีวา พาสุขสม
สุขภาพดี ถ้วนหน้า ธันวาคม
พ่อดั่งพรหม ผดุงไทย เกรียงไกรเอย

*** แรกดำรัส พ่อตรัส ปฐมวาท
พ่อประกาศ บอกกล่าว ชาวสยาม
เราจะครอง ผืนแผ่นดิน ถิ่นไทยงาม
ด้วยคุณธรรม ประโยชน์สุข ทุกหมู่ไทย
วันเดือนปี ผันผ่าน กาลผันเปลี่ยน
หลายปีเวียน มาบรรจบ ครบศกใหม่
สองหมื่นวัน ผันและผ่าน กาลเปลี่ยนไป
น้ำพระทัย พ่อคงมั่น คำสัญญา
พระจริยวัตร ทรงปฏิบัติ อย่างชัดเจน
วางหลักเกณฑ์ ทฤษฎีใหม่ ไทยศึกษา
สร้างอาชีพ สร้างพลัง สร้างพารา
บ้านเมืองไทย งดงามตา ด้วยบารมี
พ่อทรงเป็น ยิ่งกว่า มหากษัตริย์
พ่อทรงเป็น นักปราชญ์ ศาสตราศี
พ่อทรงเป็น นักประดิษฐ์ คิดวิธี
พ่อทรงเป็น บุพพการี ชีวีไทย

*** 62 ปี มหาราช ฉัตรปกเกล้า
ไทยทุกเผ่า ร้อยรัก สมัครสมาน
ทศพิธ ราชธรรม น้อมนำกาล
พระทรงงาน ยอดยิ่ง มิ่งเมืองไทย
เป็นแบบอย่าง ทางถูก ให้ลูกหลาน
ก่อเกิดการ งานหลัก จากพิสัย
ให้รักษ์น้ำ รักษ์ดิน คู่ถิ่นไทย
น้ำพระทัย มหาราช ของชาติไทย
เศรษฐกิจ พอเพียง เลี้ยงชีวิต
ทรงอุทิศ เวลา เงินตราให้
ทรงตรากตรำ ทำเอง จากจิตใจ
ต้องการให้ เห็นจริง ทุกสิ่งงาน
ความสำเร็จ เสร็จสม อารมณ์หวัง
เสริมพลัง สร้างความคิด ลิขิตขาน
พระทรงชัย ไตร่ตรอง มองเหตุการณ์
เพื่อลูกหลาน รุ่งเรือง เมืองไทยงาม

*** 84 ปี ชนชาวไทย น้อมใจภักดิ์
ร้อยรวมรัก สมัครจิต อุทิศผล
ด้วยผองไทย ใจมนุษย์ สูงสุดชน
มหามงคล ฉลองชนม์ องค์ภูมี
ขอทวยไท้ เทวดา มาสถิตย์
ฉลองกิจ เฉลิมกาล สานราศี
หลายล้านใจ ถักทอ ก่อกรรมดี
บุญบารมี ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ

*** พระทรงเป็น ยิ่งกว่า มหากษัตริย์
พระทรงเป็น นักปฏิบัติ สืบค้นหา
พระทรงเป็น นักคิด วิทยา
พระทรงเป็น นักพัฒนา คู่ฟ้าไทย
พระทรงธรรม น้อมนำ ธรรมชาติ
พระทรงตรัส ชัดแจ้ง แถลงไข
พระทรงสร้าง ทางถูก เพื่อลูกไทย
พระทรงชัย ครองใจ ไทยทุกดวง ( ขอพระองค์ทรงพระเจริญ )

วันพ่อแห่งชาติ

วันพ่อนี้ผมขอให้คุณพ่อของผมมีความสุขมากนะ 
ความเป็นมาวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา ( วันพ่อ )
วันเฉลิมพระชนมพรรษา


ความหมายตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา
๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
        5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการหนึ่งวัน เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ ถือเป็นวันพ่อแห่งชาติ อีกวันหนึ่งด้วย วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความเป็นมาของวันสำคัญ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา โดยนายแพทย์วิทท์มอร์ เป็นผู้ถวายการประสูติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 9 แห่งบรมจักรีวงศ์ กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจและเจริญพระราชจริยาวัตรเป็นเอนกประการ จำเนียรกาลผ่านมาถึงปัจจุบันที่สุดจะพรรณนาให้ครบถ้วนได้ ท่ามกลางมหาสมาคมวันพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ทรงมีกระแสพระราชดำรัสที่พสกนิกรทุกคนยังจดจำได้ "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม" อันคำว่าโดย "ธรรม" นั้น ทรงหมายถึง ธรรมอันล้ำเลิศที่เรียกว่า "ทศพิธราชธรรม" หรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า "ราชธรรม 10 ประการ" ราชธรรม 10 ประการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยึดมั่นทรงปฎิบัติโดยเคร่งครัด และส่งผลถึงพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเหนือเกล้าฯ

         วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริ่เริ่ม หลักการและเหตุผลในการจัดตั้งวันพ่อ โดยที่พ่อเป็นผู้มีพระคุณที่มีบทบาทสำคัญ ต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสมควรที่สังคมจะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาว ไทยอย่างนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงรักใคร่และห่วงใยตั้งแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งพระเจ้าหลานเธอทุกพระองค์ต่างซาบซึ้งและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างมิรู้ลืม พระองค์ทรงเป็น "พ่อ" ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

งานบุญกฐิน บ้านหนองหว้าทอง

ณ   บ้านหว้าทอง   วันที่   14   พฤศจิกายน    2553   ได้มีคนที่ใจบุญจากจังหวัด  นครราชสีมา ไปทอดกฐินที่บ้านหว้าทอง ได้มีการประกวดการร้องเพลง และประกวดไก่ชนเพื่อชิงรางวัล  5,000  บาท

       ปรากฎว่าผู้ชนะจากการร้องเพลงเป็นเด็กซึ่งมีอายุเพียง   ​9   ขวบ  เท่านั้น  ผู้ชมต่างก็ชื่นชมเด็กคนนี้ที่ร้องเพลงได้ไพเราะมากๆๆ
    ต่อไปก็เป็นการนับเงินกฐิน   ได้   500,000  บาท